โง ดิ่ญ ญู (
เวียดนาม: Ngô Đình Nhu; ในอดีตนิยมทับศัพท์ว่า
โง ดินห์ นู, 7 ตุลาคม พ.ศ. 2453 – 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2506 ชื่อที่ได้รับหลังเข้าพิธีล้างบาปคือ
ยาโคป) เป็นคนเก็บเอกสารและนักการเมืองชาวเวียดนาม
[1] เขาเป็นน้องชายคนรองและหัวหน้าที่ปรึกษาทางการเมืองของ
โง ดิ่ญ เสี่ยม ประธานาธิบดีคนแรกของ
ประเทศเวียดนามใต้ แม้ว่าเขาจะไม่ได้ดำรงตำแหน่งฝ่ายบริหารอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด แต่เขาก็ใช้อำนาจที่ไม่เป็นทางการอย่างใหญ่โต ในการใช้คำสั่งส่วนตัวของทั้งหน่วยรบพิเศษของกองทัพสาธารณรัฐเวียดนาม(หน่วยกองกำลังกึ่งทหารที่ทำหน้าที่เป็นกองทัพส่วนบุคคลโดยพฤตินัยของตระกูลโง) และเครื่องมือทางการเมืองของ
เกิ่นลาว(ที่เป็นที่รู้จักกันคือ พรรคแรงงานส่วนบุคคล) ซึ่งทำหน้าที่เป็นตำรวจลับโดยพฤตินัยของระบอบการปกครองในวัยช่วงแรกของเขา ญูเป็นคนที่เงียบขรึมและเจ้าเล่ห์ซึ่งแสดงความโน้มเอียงเล็กน้อยต่อเส้นทางการเมืองของพี่ชายของเขา ในขณะที่ฝึกเป็นคนเก็บเอกสารในฝรั่งเศส ญูได้นำอุดมการณ์ของ
ลัทธิบุคคลนิยมของ
นิกายโรมันคาทอลิกมาใช้ แม้จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ก็ตาม
[2][3] มีการกล่าวอ้างว่าเขาใช้ปรัชญานั้นไปในทางที่ผิด เมื่อกลับมาที่เวียดนาม เขาได้ช่วยเหลือพี่ชายของเขาในการแสวงหาอำนาจทางการเมือง และญูได้พิสูจน์ให้เห็นถึงนักยุทธศาสตร์และกลยุทธ์ที่ชาญฉลาดและโหดเหี้ยม ซึ่งช่วยให้เสี่ยมได้รับผลประโยชน์มากขึ้นและเอาชนะคู่แข่งได้มากขึ้น ในช่วงนั้น เขาได้ก่อตั้งและคัดเลือกสมาชิกของพรรคเกิ่นลาวที่เป็นความลับ ซึ่งได้ให้กล่าวคำสาบานว่าตนจะจงรักภักดีต่อตระกูลโงเพื่อเป็นฐานอำนาจของพวกเขา และในที่สุดก็กลายเป็นกองกำลัง
ตำรวจลับของพวกเขา ญูยังคงเป็นหัวหน้า จนกระทั่งตัวเขาถูกลอบสังหารในปี พ.ศ. 2498 ผู้สนับสนุนของญูได้ช่วยเหลือกันในการข่มขู่ประชาชนและควบคุมการลงประชามติของรัฐเวียดนามในปี พ.ศ. 2498 ซึ่งทำให้เสี่ยม พี่ชายของเขาได้ครองอำนาจ ญูได้ใช้เกิ่นลาว ซึ่งเขาจัดตั้งให้เป็นกลุ่มเล็ก ๆ เพื่อแทรกซึกเข้าไปในทุกส่วนของสังคม เพือกำจัดฝ่ายปรปักษ์กับตระกูลโง ในปี พ.ศ. 2502 เขาได้จัดให้มีการลอบสังหารที่ล้มเหลวด้วยการส่งกล่องพัสดุที่ถูกติดตั้งด้วยระเบิดไปให้กับ
เจ้าสีหนุ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาที่เป็นประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งความสัมพันธ์ดูเริ่มตึงเครียด ญูได้เปิดเผยต่อสาธารณชนในความสามารถทางด้านความรู้ของตนเอง เขาเป็นที่รู้จักกันในเรื่องการแถลงการณ์ต่อสาธารณะว่า ได้ให้คำมั่นสัญญาว่า จะรื้อถอนเจดีย์ซาลอย และสาบานว่าจะสังหารพ่อตาที่เหินห่างของเขา Trần Văn Chương ผู้เป็นเอกอัครราชทูตประจำสหรัฐอเมริกา ภายหลังจากที่ได้ประณามพฤติกรรมของตระกูลโงและตัดความสัมพันธ์กับบุตรสาวของตนคือ
มาดามญู ภรรยาของญู
[4]ในปี พ.ศ. 2506 การครองอำนาจของตระกูลโงเริ่มติดขัดในช่วง
วิกฤตการณ์ทางศาสนาพุทธ ซึ่งเป็นช่วงที่
ชาวพุทธส่วนใหญ่ในประเทศได้ลุกขึ้นต่อต้านระบอบการปกครองที่นิยมนับถือนิกายโรมันคาทอลิก นูได้พยายามทำลายการต่อต้านของชาวพุทธโดยใช้หน่วยรบพิเศษใน
การตีโฉบฉวยต่อวัดพุทธที่มีชื่อเสียง ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน และวางกองกำลังทหารประจำการไว้ในที่ต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม แผนการของญูได้ถูกเปิดเผย ซึ่งทำให้แผนการที่ได้ถูกคิดขึ้นอย่างแข็งขันโดยเจ้าหน้าที่นายทหาร ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากอเมริกาที่หันหลังให้กับตระกูลโง ภายหลังจากการโจมตีวัดเจดีย์ ญูได้รับรู้แผนการดังกล่าว แต่ยังคงมั่นใจว่าเขาสามารถที่จะเอาชนะพวกเขาได้ และเริ่มวางแผนการต่อต้านรัฐประหาร รวมทั้งการลอบสังหารเอกอัครราชทูตสหรัฐ
เฮนรี เคบ็อท ลอดจ์ จูเนียร์ และบุคคลทั้งฝ่ายปรปักษ์และอเมริกันคนอื่น ๆ ญูโดนหลงกลโดยนายพล Tôn Thất Đính, ผู้ภักดี ซึ่งได้หันมาต่อต้านกับตระกูลโง ในวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2506 การรัฐประหารยังคงดำเนินต่อไป และสองพี่น้องตระกูลโง(ญูและเสี่ยม) ได้ถูกควบคุมตัวและถูกลอบสังหารในวันรุ่งขึ้น
[5]